Sunday 13 January 2013

สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก

          สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริเป็นจุดท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำสหรับคนที่มาเที่ยว อำเภอนาแห้ว เพราะ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาแห้วประมาณ 50 กิโลเมตร ห่างจากอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย 30 กิโลเมตร   เป็นศูนย์รวมพรรณไม้ที่เกิดขึ้นจากพระราชดำริของมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคง พื้นที่ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2542

      ในการนี้ ได้มีพระราชดำริให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งศูนย์รวมพรรณไม้บ้านร่มเกล้าในพระราชดำริฯ ในพื้นที่ส่วนปลายของเทือกเขาภูสอยดาว โดยมีพระราชประสงค์เพื่อส่งเสริมความมั่นคงภายในประเทศ และเป็นการอนุรักษ์ป่าที่สมบูรณ์ไว้เพื่อเป็นป่าต้นน้ำลำธาร รวมทั้งสนับสนุนราษฎรบ้านร่มเกล้า และหมู่บ้านข้างเคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

      นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัด พิษณุโลก และประเทศชาติต่อไปต่อมาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 คณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ จึงมีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนสถานะจากศูนย์รวมพรรณไม้ฯ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ โดยใช้ชื่อว่า “สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ"

      “สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ" มีพื้นที่ 1,385 ไร่ ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 750 – 1,250 เมตร มีความหลากหลายของระบบนิเวศป่าและพรรณพืช ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลใดก็ยังคงความสมบูรณ์เต็มไปด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ เปรียบดั่งห้องสมุดทางธรรมชาติที่ให้บริการความรู้ทางวิชาการด้านพืชและ ธรรมชาติวิทยาแก่นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชนที่สนใจ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพื่อการเรียนรู้และพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา และมวลพฤกษานานาพันธุ์

รวมภาพสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ





สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ 







สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ





สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ





สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ





สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ



ข้อมูล/ภาพจาก :
Romklao Botanical Garden




No comments: